ผงหมึกเติมของ C2200/C3300DX Series จะมี 2 กลุ่ม แยกตามราคาครับ
- แบบ Support ความละเอียด 600x600 Dpi ใช้กับรุ่น C2200 โดยเฉพาะ
- แบบ Support ความละเอียด 1200x1200 Dpi ใช้กับรุ่น C3300DX โดยเฉพาะ
เราแนะนำให้ใช้ตามรุ่นที่ท่านใช้งานครับ
แต่ถ้าท่านใช้งานไม่ตรงรุ่น ก็ได้ครับ ไม่มีปัญหา แต่จะมีคำอธิบายให้ดังนี้ครับ
- ถ้า C2200 ใช้ผงหมึกความละเอียดสูง 1200x1200 Dpi ผลที่ได้รับคือ
ภาพก็จะมีความมันเงาเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ แต่เส้นเล็กๆก็ยังเหมือนเดิม เพราะเลเซอร์สามารถยิงได้แค่ 600x600 Dpi จึงอาจจะดูไม่จำเป็นนัก
- ถ้า C3300DX ใช้ผงหมึกความละเอียดธรรมดา 600x600 Dpi ผลที่ได้รับคือ
งานที่เป็นภาพ มีความเงางามน้อยลง แต่ก็ยังสวยงามได้มาตรฐาน เหลือเฟือ ส่วนเส้นเล็กๆ จะเป็นเส้นที่หนากว่า เพราะเลเซอร์ยิงได้คมกริบ แต่ผงหมึกมีอนุภาคใหญ่กว่า เส้นก็จะแตกเล็กน้อย ต้องสังเกตใกล้ๆ จึงจะเห็น มักจะมีปัญหากับตัวอักษร Font เล็กๆ แบบฉลากกำกับยาดม ตัวอักษรมีขนาดเล็กมาก ประมาณว่า ค.ควาย กับ ด.เด็ก จะแยกกันไม่ค่อยออกครับ (หัวของตัวอักษรจะแตกจนมองไม่ออก ต้องเดาเอาครับ) ถ้าไม่ซีเรียสกับเรื่องแบบนี้ ก็แล้วไปครับ
สรุป
- ทั้งสองข้อ ใช้งานได้หมด ไม่มีปัญหากับเครื่องใดๆทั้งสิ้นครับ
- เรื่องคุณภาพงาน ต้องคนที่ตาเทพๆเท่านั้นครับ จึงจะสังเกตุออกครับ หรือต้องใช้แว่นขยายส่องครับ ดูด้วยตาเปล่า ไม่ทราบเลยครับ ดูยากมากครับ เพราะคุณภาพใกล้เคียงกันครับ
- ส่วนใหญ่ ครั้งแรก ลูกค้าก็นิยมที่จะใช้ผงหมึกความละเอียดสูงครับ เพราะตลับยังใหม่ ลูกดรัมยังใหม่ แต่พอใช้ไปสัก 2-3 รอบการเติม ตลับเริ่มเสื่อมสภาพ ลูกดรัมเริ่มเสื่อมสภาพ ใส่ผงหมึกความละเอียดสูงลงไป ภาพก็ยังไม่ค่อยคมชัด (เพราะลูกดรัมเสื่อม) จึงเปลี่ยนมาใช้ผงหมึกแบบความละเอียดธรรมดากันครับ
ตลับหมึกแท้ Original จะใช้ผงหมึกแบบในข้อ 2 ครับ เพื่อให้ตลับหมึกเดียวกัน สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 รุ่นครับ
บันทึก (เพื่อเปรียบเทียบราคา)
ไม่ได้ขายนะครับ ให้ดูราคาของแท้เฉยๆ
อ้างอิงจากราคาในโบร์ชัวร์ เมษายน 2559
STD-Cap. (Standard Capacity)
CT 350670 = Black Toner Cartridge หรือ K (6K) * ราคา 4,768 บาท
CT 350671 = Cyan Toner Cartridge หรือ C (4K) ** ราคา 5,923 บาท
CT 350672 = Magenta Toner Cartridge หรือ M (4K) ** ราคา 5,923 บาท
CT 350673 = Yellow Toner Cartridge หรือ Y (4K) ** ราคา 5,923 บาท
Hi-Cap. (High Capacity)
CT 350674 = Black Toner Cartridge หรือ K (9K) *** ราคา 6,211 บาท
CT 350675 = Cyan Toner Cartridge หรือ C (9K) *** ราคา 9,629 บาท
CT 350676 = Magenta Toner Cartridge หรือ M (9K) *** ราคา 9,629 บาท
CT 350677 = Yellow Toner Cartridge หรือ Y (9K) *** ราคา 9,629 บาท
* (6K) คือ สามารถใช้งานได้ 6,000 หน้า
** (4K) คือ สามารถใช้งานได้ 4,000 หน้า
*** (9K) คือ สามารถใช้งานได้ 9,000 หน้า
คิดจากการใช้งานจริง โดยใช้ผงหมึก 5% บนกระดาษ A4
การแสดงผลบนหน้าปัทม์ของเครื่องพิมพ์
เมื่อผงหมึกใกล้หมด เครื่องจะแสดงข้อความบนหน้าปัทม์ดังนี้
xxx Cartridge Replacement time
(xxx = สีของผงหมึก Cyan, Magenta, Yellow, Black)
สถานะตลับไฟสีเขียว [READY]
หมายความว่า "เตรียมตัวสั่งซื้อผงหมึก" (เพราะผงหมึกใกล้จะหมดแล้ว)
แต่เครื่องยังใช้งานต่อได้ครับ
เมื่อผงหมึกหมดแล้ว เครื่องจะแสดงข้อความบนหน้าปัทม์ดังนี้
Replace xxx Print Cartridge
(xxx = สีของผงหมึก Cyan, Magenta, Yellow, Black)
สถานะตลับไฟสีแดง [ERROR]
หมายความว่า "กรุณาเปลี่ยนตลับหมึกใหม่" (เพราะผงหมึกหมดแล้ว)
เครื่องจะหยุดการทำงาครับ ต้องแก้ไขก่อน จึงจะใช้งานต่อได้ครับ
- สีทั้ง 4 สีจะหมดในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่อาจจะไม่พร้อมกัน โดยแม่สีทั้ง 3 คือ C M Y จะผสมสีกันเพื่อทำภาพ ส่วนสีดำ K จะทำให้ภาพเข้มขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะพิมพ์อะไรก็ตาม เครื่องจะใช้ทั้ง 4 สีแน่นอน อยู่ที่ว่าจะใช้รายละเอียดของสีใด มาก-น้อยเป็นพิเศษหรือไม่ ดังนั้นในครั้งแรกควรซื้อเป็นชุดทั้ง 4 สีก่อน แล้วครั้งต่อไปค่อยสั่งสีที่ใช้บ่อยครั้งตามความต้องการ
- เป็นเรื่องปกติ ผงหมึกที่ติดมากับเครื่องจากโรงงานจะให้มาไม่มาก ดังนั้นผงหมึกที่เริ่มใช้ในตอนแรกจะหมดเร็วมาก ดังนั้นถ้าซื้อเครื่องมาใหม่ ไม่จำเป็นต้องรอให้เครื่องเตือนผงหมึกก่อน ยังไงๆท่านก็ต้องได้เติมอยู่ดี เราจึงขอแนะนำว่าให้ซื้อผงหมึกไปเติมก่อนที่เครื่องจะหยุดทำงาน
- เมื่อเติมผงหมึกลงไปในตลับหมึก หรือตลับหมึกแล้ว เครื่องก็ยังไม่สามารถทำงานต่อได้ จนกว่าจะเปลี่ยน ชิพหมึก (Toner Cartridge Chips) เสียก่อน และควรเติมผงหมึกให้เต็มก่อนทุกครั้ง ก่อนการเปลี่ยนชิพหมึก