ใช้เปลี่ยนแทนชิพหมึกตัวเดิม ในหลอดหมึกที่ติดกับเครื่องมาจากโรงงาน ตามรหัสของหลอดหมึกดังนี้
CT 200649 = Black Toner Cartridge หรือ K
Hi-Cap (High Capacity) 4,000 Page (ใช้พื้นที่ 5% ของกระดาษ A4)
CT 200650 = Cyan Toner Cartridge หรือ C
Hi-Cap (High Capacity) 4,000 Page (ใช้พื้นที่ 5% ของกระดาษ A4)
CT 200651 = Magenta Toner Cartridge หรือ M
Hi-Cap (High Capacity) 4,000 Page (ใช้พื้นที่ 5% ของกระดาษ A4)
CT 200652 = Yellow Toner Cartridge หรือ Y
Hi-Cap (High Capacity) 4,000 Page (ใช้พื้นที่ 5% ของกระดาษ A4)
CT 200920 = Cyan Toner Cartridge หรือ C
Std-Cap (Standard Capacity) 1,500 Page (ใช้พื้นที่ 5% ของกระดาษ A4)
CT 200921 = Magenta Toner Cartridge หรือ M
Std-Cap (Standard Capacity) 1,500 Page (ใช้พื้นที่ 5% ของกระดาษ A4)
CT 200922 = Yellow Toner Cartridge หรือ Y
Std-Cap (Standard Capacity) 1,500 Page (ใช้พื้นที่ 5% ของกระดาษ A4)
ชิพหมึกจะใช้ 1 ตัวต่อหลอดหมึก 1 หลอด สีใครสีมัน สลับสีกันไม่ได้ ซื้อครั้งแรกควรซื้อให้ครบทั้ง 4 สี หรือ 4 ตัว
*** ท่านมีทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชิพหมึก หากท่านยกเครื่องมาให้เราทำการ Reset เครื่องของท่านจะสามารถใช้งานได้ต่อ เหมือนได้เปลี่ยนชิพหมึกใหม่ทุกประการ ***
การ Reset เครื่องพิมพ์แทนการเปลี่ยนชิพหมึกนี้ เราจะทำการตั้งค่า+ปลดล๊อคให้เครื่องสามารถมีอายุการใช้งานได้มากขึ้นอีกนิดหน่อย (มากกว่าการเปลี่ยนชิพหมึก) การทำงานของเครื่องนั้นจะสมบูรณ์ทุกประการ เราได้ทำการปลดล็อคมามากกว่าร้อยเครื่องแล้วครับ ยังไม่เคยมีปัญหาแม้แต่เครื่องเดียว สบายใจได้เลยครับ
อายุของชิพหมึกจะใช้ได้เท่ากับชุด Hi-Cap (High Capacity)
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิพหมึก อยู่ในบทความตามลิงค์ด้านบน