ใช้เติมลงไปในหลอดหมึกเดิม ตามรหัสของหลอดหมึกดังนี้

• 106R00652 = Black Toner Cartridge (32,000 Page)
• 106R00653 = Cyan Toner Cartridge (22,000 Page)
• 106R00654 = Magenta Toner Cartridge (22,000 Page)
• 106R00655 = Yellow Toner Cartridge (22,000 Page)

เมื่อผงหมึกใกล้หมด เครื่องจะแสดงข้อความบนหน้าปัทม์ดังนี้

• Ready to print Order new Toner : [สีของผงหมึก]
  หมายความว่า "เตรียมตัวสั่งซื้อผงหมึก" (เพราะผงหมึกใกล้จะหมดแล้ว)
• Ready to print Add Toner : [สีของผงหมึก]
  หมายความว่า "เปลี่ยนหลอดหมึก"
  (เพราะผงหมึกในหลอดหมดแล้ว แต่ยังมีในถังเก็บหมึกบ้างนิดหน่อย)
• Replace Toner Cartridge : [สีของผงหมึก]
  หมายความว่า "กรุณาเปลี่ยนตลับหมึกใหม่" (เพราะผงหมึกในถังเก็บหมึกหมดแล้ว)

สิ่งที่ควรทราบ

• สีทั้ง 4 สีจะหมดในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่อาจจะไม่พร้อมกัน โดยแม่สีทั้ง 3 คือ C M Y จะผสมสีกันเพื่อทำภาพ ส่วนสีดำ K จะทำให้ภาพเข้มขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะพิมพ์อะไรก็ตาม เครื่องจะใช้ทั้ง 4 สีแน่นอน อยู่ที่ว่าจะใช้รายละเอียดของสีใด มาก-น้อยเป็นพิเศษหรือไม่ ดังนั้นในครั้งแรกควรซื้อเป็นชุดทั้ง 4 สีก่อน แล้วครั้งต่อไปค่อยสั่งสีที่ใช้บ่อยครั้งตามความต้องการ
• เป็นเรื่องปกติ ผงหมึกที่ติดมากับเครื่องจากโรงงานจะให้มาไม่มาก ดังนั้นผงหมึกที่เริ่มใช้ในตอนแรกจะหมดเร็วมาก ดังนั้นถ้าซื้อเครื่องมาใหม่ ไม่จำเป็นต้องรอให้เครื่องเตือนผงหมึกก่อน ยังไงๆท่านก็ต้องได้เติมอยู่ดี เราจึงขอแนะนำว่าให้ซื้อผงหมึกไปเติมก่อนที่เครื่องจะหยุดทำงาน
• หลอดหมึกที่ติดมากับเครื่อง อย่าทิ้ง สามารถใช้ได้ตลอดอายุการใช้งานถ้าไม่แตกหักเสียหาย ท่านสามารถเติมผงหมึกได้โดยไม่ต้องแกะหลอดหมึกเลยแม้แต่น้อย
• หลอดหมึกสี C M Y สามารถเติมผงหมึกได้ประมาณ 2-3 ขวด ในครั้งเดียว
• หลอดหมึกสีดำ K สามารถเติมได้ 4-5 ขวดในครั้งเดียว จะทยอยเติมทีละขวดก็ได้ แต่อย่าให้หมดกลางคัน
• เครื่องรุ่นนี้ ไม่ใช้ชิพหมึกครับ เติมผงหมึกอย่างเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนชิพหมึกใดๆทั้งสิ้น
• หลังการสั่งซื้อสินค้า เราจะมีวิธีแนะนำให้ทำการ Reset หลอดหมึก เพื่อหลอกให้เครื่องพิมพ์รับรู้ว่า หลอดหมึกที่เราเติมผงหมึกลงไป เป็นหลอดหมึกใหม่